ว่าด้วยเรื่องของการปลูกผม แม้ว่าจะเป็นวิธีที่เห็นผลชัดเจนที่สุดในการรักษาผมบาง ศีรษะล้านตามกรรมพันธุ์ แต่ก็นับเป็นทางเลือกท้ายๆ ของผู้ที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมอยู่ดี ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยของราคา หรือข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่จะต้องศึกษาให้ดีก่อนการตัดสินใจ ฯลฯ “เซรั่มปลูกผม” จึงกลายมาเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่มักถูกใช้กัน แล้วเซรั่มปลูกผมที่เห็นผลจริง ทำงานอย่างไร วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจ พร้อมวิธีการเลือกซื้อเซรั่มปลูกผมให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดตามที่คาดหวังกัน
เซรั่มปลูกผม คืออะไร
เซรั่มปลูกผม หรือเซรั่มบำรุงผม คือ เซรั่มที่ทำหน้าที่ลดผมร่วงผมบาง ที่ทำงานโดยการออกฤทธิ์เฉพาะจุดในบริเวณที่ใช้เซรั่ม ซึ่งหลายคนมักเข้าใจว่าการใช้เซรั่มจะช่วยทำให้เส้นผมใหม่งอกขึ้นมา หรือช่วยในเรื่องของการปลูกผมได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเซรั่มปลูกผมไม่สามารถปลูกผมที่ไม่มีรากผมหลงเหลืออยู่ให้งอกขึ้นมาใหม่ได้ แต่จะเป็นเพียงการเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาบางอย่างที่เป็นสาเหตุให้ผมร่วง ผมบางเท่านั้น
สาเหตุที่ใช้เซรั่มปลูกผมแล้วไม่ได้ผล
หากผู้ที่ใช้เซรั่มปลูกผมเป็นคนที่มีปัญหาศีรษะล้านระดับรุนแรง การใช้เซรั่มปลูกผมก็จะไม่แสดงผลลัพธ์ใดๆ เพราะเซรั่มปลูกผมจะได้ผลและช่วยกระตุ้นให้เส้นผมที่ยังมีรากผมอยู่แข็งแรงขึ้น และงอกเส้นผมให้เติบโตขึ้นมาตามเดิมได้เท่านั้น แต่ถ้าหากไม่มีรากผมเหลืออยู่ในบริเวณนั้นแล้ว เซรั่มปลูกผมก็ใช้ไม่ได้ผลแต่อย่างใด
วิธีการเลือกใช้เซรั่มปลูกผมให้ได้ผล
เดี๋ยวนี้เซรั่มปลูกผมตามท้องตลาดก็มีขายกันอยู่มากมาย และแต่ละแบรนด์ ต่างก็เคลมสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ของตัวเองกันอย่างเต็มที่ แต่เราสามารถเลือกซื้อเซรั่มปลูกผมได้จากการพิจารณาปัจจัยต่างๆ ได้ดังนี้
การเลือกเซรั่มปลูกผมที่ส่วนผสมที่ช่วยลดผมร่วง เพิ่มผมหนา
ถ้าเป็นเซรั่มปลูกผมแต่ไม่มีสารสกัดอะไรที่ช่วยในเรื่องของการลดผมร่วง และกระตุ้นการงอกของเส้นผมให้หนาขึ้นได้ ก็คงเสียชื่อเซรั่มปลูกผมแน่ๆ หากเราจะเลือกซื้อเซรั่มปลูกผมสักขวด ลองพลิกฉลากขึ้นมาดูก่อนว่า มีสารสกัดที่ช่วยในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ เช่น Arnica Montana Flower Extract, Trifolium Pratense Flower Extract, Scutellaria Baicalensis Root Extract, Pisum Sativum Sprout Extract, Glycine Soja Germ Extract, Triticum Vulgare Germ Extract, Acetyl Tetrapeptide-3, Arginine, Artemia Extract, Zinc PCA เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม : เจาะลึกสารสกัดกว่า 10 ชนิดใน เซรั่มบำรุงผม KEMIST
เลือกเซรั่มปลูกผม ที่มีผลการศึกษาทางคลินิก
แม้ว่าใครจะเคลมว่าเซรั่มปลูกของตนได้ผลดีอย่างไร แต่หากไม่มีการพิสูจน์ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง ก็เป็นไปได้ว่าสิ่งที่จะได้จากการใช้เซรั่มดังกล่าว อาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร และด้วยเหตุผลนั้นเอง KEMIST จึงได้มีการทดลองทางคลินิกกับอาสาสมัคร โดยให้ใช้เซรั่มปลูกผม KEMIST LABS BOTANICAL DERIVED SCALP SERUM (เคมิสต์ แล็บส์ โบทานิคอล ดีไรฟ์ด สคาล์บ เซรั่ม) วันละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งมีผลสรุปได้ว่า ผลการศึกษาพบว่ากว่า 75% ของอาสาสมัครผมหนาขึ้น แข็งแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ 90% ของอาสาสมัครพบว่าปัญหาผมมันลดลงอย่างเห็นได้ชัด และกว่า 95% พอใจในผลลัพธ์ และไม่มีรายงานอาการแพ้หรือระคายเคืองของอาสาสมัครที่ทดลองใช้เซรั่ม KEMIST แม้แต่คนเดียว
อ่านเพิ่มเติม : ผลการศึกษาทางคลินิก (Clinical study) ของเซรั่มปลูกผม KEMIST
รีวิวที่น่าเชื่อถือ เซรั่มปลูกผมที่เห็นผลจริง
ก่อนการตัดสินใจซื้ออะไร เชื่อว่าหลายคนต้องลองหาดูรีวิวจากผู้ใช้จริงกันก่อนซื้อสินค้ากันอยู่แล้ว แต่แม้แต่การรีวิวก็มีข้อพึงระวัง เพราะใช่ว่าทุกรีวิวที่เห็นจะมาจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เองจริงๆ ซึ่งการเลือกดูรีวิวที่น่าเชื่อถือ สามารถสังเกตได้จากการที่ผู้รีวิวบอกถึงข้อเท็จจริง ไม่อวยสินค้าของตัวเองมากเกินไป มีการกล่าวถึงทั้งข้อดีและข้อเสียของการใช้ผลิตภัณฑ์ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเป็นผู้ที่ใช้จริงและมีภาพเปรียบเทียบก่อนใช้ หลังใช้อย่างชัดเจน จึงจะสามารถเชื่อได้ว่า รีวิวที่เรากำลังดูอยู่นั้น น่าเชื่อถือและมาจากผู้ใช้งานจริงแบบจริงๆ
สรุป
เซรั่มปลูกผม คือ เซรั่มที่ทำหน้าที่ลดผมร่วงผมบางเฉพาะจุดในบริเวณที่ใช้เซรั่ม ซึ่งเซรั่มจะช่วยได้ผลกับบริเวณที่เส้นผมมีรากผมหลงเหลืออยู่ รวมไปถึงการช่วยลดปัจจัยที่ทำให้ผมร่วงได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถทดแทนในเรื่องของการปลูกผมได้ ซึ่งเซรั่มปลูกผมจะใช้ไม่ได้ผลกับผู้ที่มีภาวะศีรษะล้านระดับรุนแรง หรือบริเวณที่ไม่มีรากผมเหลืออยู่แล้วนั่นเอง โดยถ้าเราต้องการซื้อเซรั่มปลูกผมที่ได้ผลจริง ให้เราเลือกซื้อจากการพิจารณาสารสกัดที่มีส่วนช่วยในการลดผมร่วง กระตุ้นผมหนา รวมทั้งต้องมีผลการทดลองใช้จริงจากอาสาสมัครรองรับ เพื่อการันตีคุณภาพและความปลอดภัยในการใช้ นอกจากนี้ต้องไม่ลืมที่จะดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริง และไม่ลืมที่จะดูภาพเปรียบเทียบทั้งก่อนและหลังใช้ด้วย