นอกจากการดูแลเส้นผมจากภายนอกแล้ว การดูแลจากภายในก็เป็นสิ่งที่ควรใส่ใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเรื่องของวิตามินบำรุงผมแต่ละชนิด ที่แม้ว่าจะมีสรรพคุณแตกต่างกัน แต่ก็มีส่วนช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดีขึ้น บทความในวันนี้จึงเป็นเรื่องของ วิตามินบำรุงผม ที่จะมาบำรุงให้เส้นผมของเราให้เงางาม แข็งแรงแถมยังลด ผมร่วง ได้อีกด้วย
7 วิตามินบำรุงผม ให้แข็งแรงสุขภาพดี
วิตามินเอ (Vitamin A)
A-ตา ชา-B C-ฟัน ฯลฯ หลักการจำที่คุณครูมักให้เราท่องตอนสมัยเรียน แต่นอกจากวิตามินเอจะมีประโยชน์ต่อดวงตาแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ต่างๆ อีกด้วยซึ่งเส้นผมก็นับเป็นเซลล์ชนิดหนึ่งที่มีการเจริญเติบโตรวดเร็วที่สุดในร่างกาย อีกทั้งวิตามินเอยังช่วยป้องกันเซลล์จากอนุมูลอิสระได้ด้วย โดยอนุมูลอิสระคือตัวทำลายภูมิคุ้มกันและเซลล์ต่างๆ ทำให้เกิดการเสื่อมถอยของร่างกาย นับว่าวิตามินเอเป็นตัวช่วยที่ดีต่อเส้นผมมากทีเดียว
วิตามินบี 12 (Vitamin B12)
วิตามินบี 12 มีอีกชื่อหนึ่งว่าโคบาลามิน (Cobalamin) ซึ่งแม้วิตามินบี 12 จะไม่ได้มีส่วนช่วยในเรื่องของเส้นผมโดยตรง แต่ถ้าหากใครที่มีภาวะขาดวิตามินบี 12 ก็จะทำให้เกิดอาการผมร่วงรุนแรงและผมหงอกก่อนวัยได้ นั่นเป็นเพราะวิตามินบี 12 มีส่วนสำคัญที่ช่วยในเรื่องของระบบไหลเวียนโลหิต ที่เป็นเหมือนท่ออาหารสำคัญในการหล่อเลี้ยงเส้นผมนั่นเอง
วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex)
ในบรรดาวิตามินทั้ง 13 ตัวของกลุ่มวิตามินบีรวม มีวิตามินบำรุงผมโดยตรงอยู่ 4 ชนิด ได้แก่ วิตามินบี 2 (Vitamin B2) วิตามินบี 7 (Vitamin B7) พาบา (Paba) และอิโนซิทอล (Inositol) ซึ่งวิตามินดังกล่าวจะทำหน้าที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม ทำให้ผมแข็งแรง ไม่เปราะบางหรือขาดง่าย
วิตามินซี (Vitamin C)
วิตามินซีถือเป็นวิตามินสามัญประจำบ้านที่มีหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ซึ่งเจ้าตัวอนุมูลอิสระนี้สามารถไปจับตัวรวมกับเซลล์รากผม ทำให้รากผมเกิดการงอกที่ผิดปกติ อันเป็นสาเหตุของผมร่วงได้ นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยป้องกันหวัด ทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้ดี และยังจำเป็นต่อการดูดซึมของแร่ธาตุอื่นๆ ได้แก่ ธาตุเหล็กและสังกะสี ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญมากๆ กับเส้นผมของเรา ถึงแม้ว่าการขาดวิตามินซีจะไม่ได้ทำให้ผมร่วงโดยตรง แต่ก็จะเกิดความเสี่ยงที่เซลล์ในร่างกายจะถูกรบกวนจากอนุมูลอิสระ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกายและต่อเส้นผมอย่างแน่นอน
วิตามินดี (Vitamin D)
วิตามินดีคือวิตามินบำรุงผมอีกตัวที่มีประโยชน์กับเส้นผมเป็นอย่างมาก เพราะวิตามินดีนั้นมีส่วนช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมอาการดีขึ้น ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรงจากการทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดี ส่วนการรับวิตามินดีนั้นก็ทำได้ง่ายๆ เพียงออกไปเจอแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าอย่างน้อย 10-15 นาทีก็จะช่วยให้ร่างกายได้สังเคราะห์วิตามินดี หรือจะหาทานเสริมจากอาหารจำพวกปลาไขมันสูงอย่างแซลมอนก็ได้เช่นกัน
วิตามินอี (Vitamin E)
วิตามินอีนั้นนับเป็นวิตามินอีกตัวหนึ่งที่สามารถปกป้องร่างกายจากสารอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี มีส่วนช่วยในการผลิตเคราตินให้กับเส้นผมและเล็บ อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้เกิดโรคผมร่วงเป็นหย่อมได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นวิตามินบำรุงผมอีกตัวที่ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้วิตามินชนิดอื่นเลย
วิตามินเอช (Vitamin H) หรือ ไบโอติน (Biotin)
ไบโอตินถือว่าเป็นวิตามินบำรุงผมที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้ เพราะไบโอตินจะถูกนำไปใช้ในการสร้างเคราตินซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเล็บและเส้นผม เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายขาดไบโอติน เส้นผมก็จะไม่แข็งแรง เปราะบางขาดง่าย จนเกิดเป็นผมร่วงหนักมากในที่สุด หากใครที่อยากมีผมสวยจากภายในสู่ภายนอก ก็ไม่ควรมองข้ามวิตามินบำรุงผมตัวนี้เด็ดขาด
สรุป วิตามินบำรุงผม
วิตามินบำรุงผม แบ่งออกได้เป็น 7 ชนิด ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินบี 12 วิตามินบีรวม วิตามินซี วิตามินดี วิตามินเอ และวิตามินเอช หรือที่รู้จักกันในชื่อไบโอตินนั่นเอง ประโยชน์ของวิตามินต่างๆ เหล่านี้ก็คือ ช่วยให้การทำงานของระบบร่างกายดีขึ้น เส้นผมได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการสร้างเส้นผม ตลอดจนลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อหนังศีรษะและเส้นผม เช่น โรคผมร่วงเป็นหย่อม เป็นต้น
แต่ถ้าใครที่รู้สึกว่าการที่จะต้องทานวิตามินให้ครบทุกชนิดเพื่อเส้นผมและหนังศีรษะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก KEMIST LABS BOTANICAL DERIVED SCALP SERUM เซรั่มบำรุงผมที่ตอบโจทย์ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างตรงจุด เพราะ KEMIST มีเปปไทด์และวิตามินที่มีประโยชน์มากมายจากสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากต้นโคลเวอร์แดง ต้นอ่อนถั่วลันเตา และส่วนผสมจากพืชตระกูลดอกทานตะวัน ฯลฯ ที่ช่วยลด ผมร่วง ทำให้ผมดูหนาขึ้น อีกทั้งยังช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบของหนังศีรษะ
มาพร้อมขวดที่มีฝาแบบ Nozzle Cap ดีไซน์ทันสมัย ที่คิดมาแล้วว่าจะช่วยกักเก็บคุณประโยชน์เอาไว้ได้อย่างเต็มที่ ช่วยลดการปนเปื้อนจากแบคทีเรียต่างๆ และยังง่ายต่อการควบคุมปริมาณเซรั่มที่ต้องการใช้ได้ดีอีกด้วย
