หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังเจอกับปัญหา ผมร่วง และเบื่อหน่ายกับการกำจัดเส้นผมที่ร่วงหล่นอยู่ตามพื้น กองอยู่บนหมอน หรือ ผมร่วงเยอะ จนอุดตันอยู่ในท่อระบายน้ำที่บ้าน ด้วยสาเหตุที่มาจากปัญหาสุขภาพเส้นผมอย่างผมร่วง ผมบาง จนบางครั้งก็พาลทำเอาความมั่นใจลดฮวบได้ง่าย ๆ แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้ ไม่ได้มีเพียงแต่คุณเท่านั้นที่กำลังประสบ บทความนี้จึงจะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ สาเหตุผมร่วง และวิธีการ รักษาผมร่วง ที่จะทำให้คุณเรียกความมั่นใจกลับคืนมาอีกครั้ง
ผมร่วง เกิดจากอะไร
มนุษย์เรานั้น มีเส้นผมอยู่ที่ 90,000-140,000 เส้น แตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคล ทำให้เส้นผมของคนเราสามารถหลุดร่วงได้ 50-100 เส้นต่อวัน และมากถึง 200 เส้นในวันที่สระผม โดยไม่นับว่าเป็นภาวะผมร่วงแต่อย่างใด แต่ที่ผมของเราไม่ได้ดูบางลงทั้ง ๆ ที่ผมร่วงเยอะได้ขนาดนั้นเป็นเพราะว่า กว่า 90% ของเส้นผมนั้นยังอยู่ในระยะเจริญเติบโต (Anagen Phase) แต่ในส่วนของผมที่ร่วงไปนั้นนับได้เป็นเพียง 10% ที่อยู่ในระยะหยุดการเจริญเติบโต (Telogen Phase) เท่านั้น หรือก็คือเส้นผมที่ร่วงไปถือเป็นเส้นผมที่เติบโตอย่างเต็มที่และไม่สามารถเติบโตได้อีกนั่นเอง
แต่ในกรณีที่ผมร่วงมากกว่า 100-200 เส้นต่อวันติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จนทำให้ผมเริ่มดูบางลงอย่างเห็นได้ชัดนั้น นับเป็นกรณีที่แตกต่างออกไป เพราะคุณอาจจะกำลังเจอกับอาการผมร่วงผมบางอยู่
อ่านเพิ่มเติม : ผมร่วงวันละกี่เส้น
สาเหตุที่ทำให้ ผมร่วงเยอะ
ผมร่วงจากกรรมพันธุ์
ผมร่วงกรรมพันธุ์นั้นกว่า 95% เกิดขึ้นในเพศชาย แต่ก็สามารถเกิดได้ในเพศหญิงเช่นกัน ซึ่งหลักการที่ทำให้ผมร่วงจากกรรมพันธุ์นั้นเกิดขึ้นจากเอนไซม์ 5-alpha reductase ที่หนังศีรษะบริเวณหน้าผากและส่วนกลางศีรษะเพิ่มขึ้น ซึ่งเอนไซม์ตัวนี้มีหน้าที่เปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ไปเป็นฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone หรือ DHT) ซึ่งฮอร์โมน DHT เป็นฮอร์โมนที่ทำให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะเล็กลง และเส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่จะมีลักษณะบางและสั้นลง จึงทำให้เกิดอาการผมร่วงผมบางตามมาในที่สุด
ผมร่วง จากโรคบางอย่าง
โรคภัยต่าง ๆ ก็ถือเป็นอีกหนึ่ง สาเหตุผมร่วง ไม่ว่าจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับเส้นผมโดยตรงอย่าง โรคผมร่วงเป็นหย่อม เชื้อราบนหนังศีรษะ หรือโรคที่เกิดกับร่างกายแต่ส่งผลกระทบต่อเส้นผม เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง ซิฟิลิส ไทรอยด์เป็นพิษ รวมไปถึงปัญหาภายในจิตใจอย่างความเครียด หรือการดึงผมตัวเอง เป็นต้น ซึ่งสามารถหายได้จากการรักษาให้หายจากโรคที่เป็นอยู่
อ่านเพิ่มเติม : เครียดจนผมร่วงทำไงดี
ผมร่วง จากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง
ในกรณีที่ตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ของผู้หญิงจะเพิ่มสูงขึ้นเพื่อช่วยเสริมสร้างร่างกายของคุณแม่ให้เหมาะสมต่อการตั้งครรภ์ และช่วยให้ทารกมีการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์แข็งแรง ทำให้หลังจากได้ให้กำเนิดทารกออกมาแล้ว ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เคยมีก็กลับสู่ระดับปกติเหมือนเช่นก่อนตั้งท้อง ซึ่งการที่ฮอร์โมนดังกล่าวลดลงในระยะเวลาสั้น ๆ นี้เอง ทำให้อาจเกิดภาวะผมร่วงหลังคลอดได้ แต่อาการดังกล่าวจะกลับมาเป็นปกติเองใน 3-6 เดือน
อ่านเพิ่มเติม : ผมร่วงหลังคลอดเกิดจากอะไร พร้อมเคล็ดลับป้องกันผมร่วง
ผมร่วง จากการขาดสารอาหาร
หากเปรียบเส้นผมเป็นดั่งต้นไม้และร่างกายเปรียบได้ดั่งดิน สารอาหารก็เป็นเหมือนกับปุ๋ยที่ร่างกายต้องการนำไปใช้ เพื่อให้การทำงานของระบบในร่างกายเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หากเมื่อใดที่ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ก็จะพลอยทำให้เส้นผมได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน วิธีแก้คือการทานอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ผมร่วง จากพฤติกรรม
ในข้อนี้ สาเหตุผมร่วงนั้นเกิดจากพฤติกรรมของตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นการดัด ยืด ผมด้วยความร้อน การทำสีผมด้วยสารเคมีต่าง ๆ รวมไปถึงการทำผมที่มัดแน่นรวบตึงมากเกินไป ก็ทำให้เส้นผมถูกทำร้ายและขาดหลุดร่วงได้เช่นกัน หากปรับพฤติกรรมเหล่านี้ได้ อาการผมร่วงก็จะค่อย ๆ หายไปได้เอง
วิธีรักษาผมร่วง
การรักษาผมร่วงนั้นมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการผมร่วง
รักษาผมร่วง ด้วยวิธีธรรมชาติ
หากระดับผมร่วงของเรายังไม่รุนแรงมาก การรักษาผมร่วงอย่างการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง ก็จะช่วยบรรเทาอาการผมร่วงลงได้ เช่น
- สระผมให้ถูกวิธี ไม่ทำรุนแรงกับเส้นผม
- ทานอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- ไม่สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
รักษาผมร่วง ด้วยวิธีทางการแพทย์
การรักษาผมร่วงด้วยวิธีทางการแพทย์ก็เป็นอีกวิธีที่ได้ผลดี เพราะมีการประเมินและรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะมีวิธีการรักษาแตกต่างกันไปตามความรุนแรงของอาการผมร่วง
- การรักษาด้วยยาทาน/ ยาทา เช่น ไมนอกซิดิล (Minixidil) และฟินาสทอไรด์ (Finasteride) ซึ่งการทานยาอาจมีผลข้างเคียงในด้านสมรรถภาพทางเพศลดลง
- การทำ PRP หรือการรักษาด้วยการฉีดเกร็ดเลือดของคนไข้เอง เพื่อเพิ่มสารอาหารให้แก้เส้นผม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีต้องทำอย่างสม่ำเสมอ และมีราคาค่อนข้างสูง
- การรักษาด้วยเลเซอร์ LLLT เพื่อกระตุ้นการงอกของเส้นผม
- การรักษาด้วยวิธีการ “ปลูกผม” เป็นการรักษาที่ปลายเหตุสำหรับผู้ที่ไม่มีรากผมแล้ว
อ่านเพิ่มเติม : ผมร่วงใช้เซรั่มอะไรดี
จะดีกว่ามั้ย หากมีตัวช่วยในการบำรุงหนังศีรษะและลดปัญหาผมร่วง อย่าง Kemist Labs Botanical Derived Scalp Serum
ที่มีส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งเอนไซม์ 5-α-reductase อันเป็นหนึ่งในสาเหตุของการสร้างฮอร์โมน DHT ที่ทำให้ผมร่วงและผมบาง เช่น สารสกัดจากธรรมชาติอย่างดอกโคลเวอร์แดง และ Zinc PCA ซึ่งสองส่วนผสมสำคัญนี้มีอยู่ใน Kemist Labs Botanical Derived Scalp Serum เซรั่มบำรุงผมที่ช่วยฟื้นฟูเส้นผมได้ล้ำลึกลึกถึงระดับเซลล์ ช่วยลดการหลุดร่วง เสริมสร้างรากผมให้แข็งแรงได้อีกด้วย
เซรั่มบำรุงหนังศีรษะ เพื่อเส้นผมที่หนาขึ้น (1 กล่องสำหรับ 1.5 เดือน)
สรุปปัญหาผมร่วง
เส้นผมของคนเราสามารถหลุดร่วงได้ 50-100 เส้นต่อวัน และมากถึง 200 เส้นในวันที่สระผม แต่ในกรณีที่ผมร่วงมากกว่านั้นติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จนทำให้ผมเริ่มดูบางลงอาจมาจากสาเหตุจากกรรมพันธุ์ที่ทำให้เอนไซม์ 5-alpha reductase ที่หนังศีรษะบริเวณหน้าผากและส่วนกลางศีรษะเพิ่มขึ้น เปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนไปเป็นฮอร์โมน DHT ซึ่งทำให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะเล็กลง และเส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่จะมีลักษณะบางและสั้น หรือจะเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่มีผลกระทบกับเส้นผมทั้งทางตรงและทางอ้อม สาเหตุจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในหญิงตั้งครรภ์ การขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย รวมไปถึงจากพฤติกรรมที่เป็นการทำร้ายเส้นผม
ซึ่งวิธีการรักษาผมร่วงสามารถทำได้ทั้งวิธีธรรมชาติ เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดการทำร้ายเส้นผม และเติมอาหารให้ผมด้วยเซรั่มบำรุงบ้าง หรือจะเป็นการรักษาผมร่วงด้วยวิธีทางการแพทย์อย่างการทานยา ทายาที่หนังศีรษะ การรักษาด้วยการฉีดเกร็ดเลือดเข้มข้น PRP การทำเลเซอร์ LLLT และการปลูกผมถาวร ก็ได้เช่นกัน
