หากพูดถึงปัญหาสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง “รังแค” หนึ่งในตัวการที่คอยสร้างความรำคาญในชีวิตประจำวันให้กับเราทุกคน แม้ว่ารังแคจะไม่ใช่โรคร้ายแรงแต่อย่างใด แต่การมีเจ้าสิ่งนี้ร่วงหล่นอยู่ตามเสื้อผ้าหรือบนบ่าก็ทำให้เราเสียบุคลิกภาพและขาดความมั่นใจอยู่ไม่น้อยเลย วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจว่า รังแคเกิดจากอะไร และมีวิธีช่วยขจัดรังแกให้หายขาดมาแบ่งปันกัน
รังแค คืออะไร
รังแค (Dandruff) คือ ขุยหรือสะเก็ดมีลักษณะเป็นแผ่นสีขาวมาจากเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และผลัดออกมาจากหนังศีรษะของเรา อยู่ในบริเวณโคนผม เส้นผม หรือบ่อยครั้งที่รังแคจะร่วงลงมาอยู่ที่บนปกเสื้อ บริเวณบ่าและไหล่ หากยิ่งใส่เสื้อสีเข้มก็จะเห็นได้ชัด ซึ่งส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพทำให้หลายๆ คนขาดความมั่นใจเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่อาการร่วมที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกัน คือ อาการคันหนังศีรษะ และมีหนังศีรษะมันด้วย ซึ่งหากยิ่งเกาก็จะทำให้มีรังแคหลุดลอกมากยิ่งขึ้น หรือถ้าหากมีอาการหนังศีรษะอักเสบร่วมด้วย นั่นอาจเป็นสัญญาณแสดงอาการของโรคผิวหนัง เช่น โรคผิวอักเสบ หรือ Seborrheic Dermatitis ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลให้เกิดปัญหาผมร่วงตามมาได้ในที่สุด
อ่านเพิ่มเติม : ผมร่วงเกิดจากอะไร “รู้ทัน”สาเหตุ วิธีรักษาผมร่วง
รังแค เกิดจากอะไร
ถึงแม้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของ การเกิดรังแค จะยังไม่ทราบได้แน่ชัด แต่เชื่อกันว่าสาเหตุส่วนหนึ่งของรังแคเกิดมาจากเชื้อราบริเวณรูขุมขนของหนังศีรษะที่มีชื่อว่า Malassezia ซึ่งพบว่าคนที่มี ปัญหาเรื่องรังแค จะมีเชื้อราชนิดนี้มากกว่าคนทั่วไปที่ไม่เป็นรังแค นอกเหนือจากสาเหตุที่มาจากเชื้อราดังกล่าวแล้ว สาเหตุของการเกิดรังแค ยังเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเราเอง ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไปกระตุ้นให้เกิดรังแคขึ้นได้อีกด้วย
ปัจจัยที่ทำให้เกิดรังแค
- การขยี้หรือเกาอย่างรุนแรงที่หนังศีรษะเวลาสระผม
- การใช้น้ำอุ่นสระผมเป็นประจำ
- การทำผมโดยใช้ความร้อน
- อย่างการไดร์ผมด้วยลมร้อน
- การหนีบผม
- การใช้สารเคมีกับเส้นผมและหนังศีรษะอย่างการกัดและทำสีผม
พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะอักเสบและขาดความชุ่มชื้น ซึ่งนำไปสู่การเกิดรังแคได้ในที่สุด
วิธีรักษา รังแค ด้วยตัวเอง
หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงกับหนังศีรษะและเส้นผม
เช่น การหวีผมแรง ๆ หรือใช้หวีที่มีความคม ไปจนกระทั่งการเกาหนังศีรษะอย่างแรงระหว่างการสระผม เพราะอาจจะทำให้หนังศีรษะอักเสบจากการเกาและเป็นรังแคได้ บางทีเป็นรังแคมาก ๆ อาจได้ผมร่วงมาเป็นของแถมอีกด้วย
เลี่ยงการใช้น้ำอุ่นในการสระผมเป็นประจำ
เพราะการใช้น้ำอุ่นสระผมบ่อย ๆ หรือทุกครั้งจะทำให้หนังศีรษะแห้ง หลุดลอกเป็นขุย และเป็นรังแคได้
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการจัดแต่งทรงผม
เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดการอักเสบของหนังศีรษะและทำให้เป็นรังแคต่อไป เช่น ไม่ใช้สารเคมีกับเส้นผมและหนังศีรษะ ลดหรือเลี่ยงการใช้ความร้อนในการทำผม หรือหากอยากเป่าผมให้แห้งด้วยไดร์เป่าผมหลังสระผม ให้เลือกใช้ลมเย็นแทนลมร้อน หรือเป่ากับพัดลมแทน
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการลดเชื้อราบนหนังศีรษะ
ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดรังแค เช่น ผลิตภัณฑ์แชมพูที่มีส่วนผสมของตัวยาจำพวก Ketoconazole Sulfide Zinc pyrithione หรือ Selenium ซึ่งผู้ที่เป็นรังแคแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้แชมพูประเภทนี้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หลังจากอาการรังแคดีขึ้นแล้วให้ลดการใช้เหลือเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือถ้าบางคนมีอาการหนังศีรษะอักเสบร่วมด้วย การบรรเทาอาการเบื้องต้นคือการใช้ยาทาประเภท Corticosteroid ทาบริเวณที่อักเสบบนหนังศีรษะหลังสระผมก็จะช่วยบรรเทาอาการลงได้
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงให้หนังศีรษะแข็งแรง เซรั่ม KEMIST LABS BOTANICAL DERIVED SCALP SERUM (เคมิสต์ แล็บส์ โบทานิคอล ดีไรฟ์ด สคาล์บ เซรั่ม) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเสริมเกราะป้องกันให้กับหนังศีรษะ ที่ผ่านการคิดค้นจากแพทย์ด้านเส้นผม ผสานส่วนผสมจากธรรมชาติช่วยในการยับยั้งเอนไซม์ 5-α-reductase สาเหตุของการสร้างฮอร์โมน DHT ตัวการผมร่วง ทั้งยังช่วยให้หนังศีรษะและเส้นผมแข็งแรงขึ้นในทุกมิติ พร้อมคืนความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง
อ่านเพิ่มเติม : เซรั่มบำรุงผม KEMIST ทำงานอย่างไร
สรุปปัญหารังแค
แม้ว่าจะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดรังแคแต่เชื่อกันว่าสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากเชื้อราบริเวณรูขุมขนของหนังศีรษะที่มีชื่อว่า Malassezia ซึ่งลักษณะของรังแคจะเป็นขุยหรือสะเก็ดสีขาวนั่นก็คือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและผลัดออกมาจากหนังศีรษะของเรา ส่วนมากคนที่เป็นรังแคอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการคันหนังศีรษะ และมีหนังศีรษะมัน หรือถ้าหากมีอาการหนังศีรษะอักเสบด้วยอาจจะเป็นสัญญาณบอกถึงอาการของโรคผิวหนังอักเสบ หรือ Seborrheic Dermatitis
การขจัดรังแคด้วยตัวเองง่าย ๆ ทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น เลี่ยงการหวีผมแรง ๆ หรือใช้หวีที่มีความคมรวมถึงการเกาหนังศีรษะอย่างแรงขณะสระผม ไม่ใช้น้ำอุ่นสระผมทุกครั้ง เลี่ยงหรือลดการใช้ความร้อนในการจัดแต่งทรงผม ไปจนถึงเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการลดเชื้อราบนหนังศีรษะอันเป็นสาเหตุหลักของการเกิดรังแคนั่นเอง